การตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิคมีความสำคัญมากในแง่ของความสวยงามซึ่งจะเพิ่มคุณค่าของงานเซรามิคให้เป็นที่ประทับใจ และสะดุดตาสำหรับคนทั่วไป ในการตกแต่งผลิตภัณฑ์เซรามิคมีได้หลายๆ วิธี
1. การผสมออกไซด์โลหะลงไปในเคลือบโดยตรง
วิธีนี้ทำได้ง่ายและเมื่อนำผลิตภัณฑ์ไปเผาแล้วจะได้เคลือบที่มีสีในตัวเอง ออกไซด์ที่ใช้
อาจจะมีหนึ่ง หรือมากกว่าหนึ่งชนิดก็ได้ในสัดส่วนต่างๆ กัน สีที่ได้จะแปรเปลี่ยนไปตามเปอร์เซ็นต์ที่ใช้และเคลือบที่ใช้ด้วย รวมไปถึงบรรยากาศของการเผาก็มีบทบาทในการเปลี่ยนสีของเคลือบได้
ส่วนมากแล้ววิธีนี้จะใช้กับการเผาผลิตภัณฑ์เซรามิกประเภทสโตนแวร์ ปอร์ซเลน ซึ่งใช้อุณหภูมิการเผาสูง มีข้อจำกัดเรื่องสีที่ได้ ไม่ค่อยจะคงที่เท่าไรนัก การเปลี่ยนสีของเคลือบเกิดขึ้นได้ง่าย แต่มีข้อดีตรงลักษณะของเคลือบที่ได้มีลักษณะเฉพาะตัว สิ่งที่สำคัญคือ การบดเคลือบจะต้องบดให้ออกไซด์โลหะ ซึ่งส่วนมากมีความแข็งมากละเอียดเพียงพอ
2. การใช้สีเซรามิก
สีเซรามิก เป็นการนำออกไซด์โลหะ หนึ่งหรือหลายชนิดมาผสมกันกับกลุ่มของอลูมิโน-
ซิลิเกต จากนั้นทำการเผาเพื่อให้เกิดโครงสร้างใหม่ที่มีคุณสมบัติคงที่ แล้วจึงบดให้ละเอียด กรรมวิธีการผลิตต้องใช้การควบคุมคุณภาพที่ดีพอ ข้อดีคือ ได้สีที่คงที่ และสะดวกต่อการใช้งาน
2.1 การเขียนด้วยมือ เป็นการใช้แปรงหรือพู่กัน เขียนลวดลายต่างๆ ลงไปบนผิว
ผลิตภัณฑ์โดยตรง อาศัยประสบการณ์มากและที่สำคัญที่สุด คือ ค่าแรงค่อนข้างสูง ข้อดีคือ ผลิตภัณฑ์จะมีคุณค่าในตัวเอง
2.2 การพ่น เหมือนการพ่นเคลือบ เพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นการพ่นสีเซรามิกลงไปบนผิว
ผลิตภัณฑ์ให้ความสม่ำเสมอกว่าการทาด้วยแปรง ส่วนที่ไม่ต้องการให้สีเกาะติด อาจใช้วิธีป้องกันด้วยการใช้สารป้องกันการยึดติดได้ การพ่นสีใต้เคลือบให้ความงามมากโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภท ฮาร์ดปอร์ซเลน
2.3 การพิมพ์ (Painting) ทำได้โดยการออกแบบรูปร่างลวดลายที่ต้องการลงบนแผ่น
ทองแดงโดยการแกะเป็นร่อง จากนั้นใช้สีที่มีสารพวกน้ำมันผสมอยู่ (Oil Base) บรรจุลงไปในร่องที่เซาะไว้และพิมพ์ลงบนกระดาษซับโดยการกดแผ่นทองแดงลงบนกระดาษซับ กระดาษซับจะทำหน้าที่คล้ายรูปลอก ซับสีจากลวดลายของแผ่นทองแดง จากนั้นนำไปติดบนผิวผลิตภัณฑ์ และใช้ฟองน้ำลูบเบาๆ กระดาษซับจะหลุดออกมาโดยที่ทิ้งสีเซรามิกไว้บนผลิตภัณฑ์
3. ซิลค์ สกรีน (Silk Screen)
เป็นการผลิตลวดลายบนผ้าที่เดิมเป็นผ้าไหม ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนมาใช้สาร
สังเคราะห์อื่นแทนแล้วลวดลายที่พิมพ์ลงบนผ้านี้ใช้กรรมวิธีทางโฟโตกราฟฟิค คล้ายๆ การล้าง-อัดรูป บริเวณที่เป็นลวดลายจะดูเหมือนรอยฉลุที่สีสามารถซึมทะลุผ่านไปได้ ในขณะที่บริเวณอื่นๆ ที่ไม่ใช่ลวดลายสีไม่สามารถทะลุผ่านได้ การใช้งานจะนำสีเซรามิคเทลงบนผ้าที่ขึงไว้ด้วยกรอบจนตึง และใช้แผ่นยางที่ดูเหมือนใบมีดกดลงบนผ้าปาดแผ่นมีดยางนี้ไปตามรอยฉลุแรงกดจะทำให้สีเซรามิคทะลุผ่านรอยฉลุลงไปติดบนผิวผลิตภัณฑ์ได้
4. การประทับ
เป็นการตกแต่งที่ใช้กับงานที่มีราคาถูกเนื่องจากลวดลายที่ได้ไม่ประณีตมากนัก เกิด
จากการแกะลวดลายลงบนแผ่นยางและกดลงบนสีเซรามิก และนำไปประทับลงบนผลิตภัณฑ์
5. การตกแต่งสีทองด้วยวิธีการใช้กรดกัด (Acid Gold Etching)
วิธีนี้ไม่ค่อยพบในประเทศไทย เป็นการตกแต่งด้วยทอง แต่ก่อนที่จะทำการตกแต่งจะ
เขียนลวดลายที่ต้องการลงบนผิวผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการเผาเคลือบมาแล้ว ส่วนที่ไม่ใช่ลวดลายจะถูกทาด้วยสารที่ทนต่อการกัดของกรดไว้ ดังนั้นเมื่อนำไปแช่ในกรด ลวดลายที่เขียนไว้จะถูกกัดออกเป็นรอย ล้างกรดออกด้วยน้ำ จากนั้นทาทองลงไปตามร่องรอยที่ได้ แล้วเผา ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะดูหรูหรามาก
6. การใช้สีในเคลือบ
ปกติแล้วการตกแต่งด้วยสีบนเคลือบ และสีใต้เคลือบเป็นการตกแต่งที่ใช้กันมาก
ในขณะที่การใช้สีในเคลือบ (in glaze) ยังไม่เป็นที่คุ้นเคยกันมากนัก การใช้สีในเคลือบจะทำคล้ายๆ สีบนเคลือบแต่หลังจากการเผาแล้วสีจะจมลงไปในเคลือบทำให้ปัญหาของสีที่จะลอกหลุดออกมาหลังจากใช้งานไประยะหนึ่งนั้นหมดไป และอุณหภูมิที่ใช้เผาจะต่ำกว่าอุณหภูมิของการเผาเคลือบ นอกจากนั้นยังสามารถใช้วิธีเผาแบบเร็วได้ด้วย งานตกแต่งด้วยสีในเคลือบใช้อย่างกว้างขวางในเยอรมันตั้งแต่ปี 1985 โดยการเผาแบบออกซิเดชัน
โดย...ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเซรามิค
>> ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เนต
หน้าที่เข้าชม | 315,847 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 208,186 ครั้ง |
เปิดร้าน | 27 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |