ญี่ปุ่น ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการพัฒนาสู่ภาคอุตสาหกรรมรวดเร็วประเทศหนึ่งในโลก หลังจากการพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจัยหลักที่ญี่ปุ่นสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วขนาดนั้น เกิดจากความร่วมมือของประชาชนทั่วประเทศ และความตั้งใจจริงที่จะเอาชนะด้านเศรษฐกิจเพื่อทดแทนการพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นในอดีต
สินค้าจากต่างประเทศหลายชนิด แม้ว่าจะมีราคาค่อนข้างแพงแต่มีคุณภาพดี ก็ไม่ได้ทำให้ความต้องการสินค้าของผู้บริโภคลดลง หากเกิดความพอใจในตัวสินค้าดังนี้ หากผู้ประกอบการใดสนใจที่จะทำการค้ากับประเทศญี่ปุ่น ต้องมีการศึกษาถึงความต้องการและรสนิยมของตลาดญี่ปุ่น และในโอกาสนี้จะยกตัวอย่างสินค้าเซรามิคที่ตลาดญี่ปุ่นต้องการมาเพื่อให้ผู้ผลิตได้ศึกษา
รูปแบบ
เซรามิกที่ผู้ใช้ญี่ปุ่นมีหลายประเภท ทั้งจากต่างประเทศและที่ผลิตได้เองในประเทศ ที่นำเข้าจากต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีรูปแบบ Simple design ซึ่งดูดีและมีรสนิยม เน้นประโยชน์ใช้สอย และง่ายต่อการขนย้าย เช่น Western tableware ในส่วนของเซรามิกที่ผลิตได้เองในประเทศนั้น ส่วนใหญ่จะนิยมออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ประเพณีนิยมมีทั้งกึ่งงานศิลป์กึ่งพาณิชย์และแต่ละชุดจะมีการออกแบบที่ไม่ซ้ำกันแบบกัน และการผลิตในแต่ละครั้งจะมีปริมาณการผลิตที่มาก (mass production) เพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งจะส่งผลให้การกำหนดราคาขายไม่สูงเกินไป
การใช้งาน
สินค้า Ceramic Tableware จากต่างประเทศญี่ปุ่นนำเข้าจะมีคุณภาพดี ราคาแพง และที่มียี่ห้อดังจากยุโรป เช่น Wedgwood (UK) Royal Copenhagen (Den-mark) Ginori (Italy) ซึ่งนิยมซื้อเพื่อเป็นของขวัญในวันแต่งงาน แต่มาในระยะหลังความต้องการที่จะให้เป็นเพียงของขวัญได้กลับหันมาปรับให้เข้ากับความต้องการใช้ในครัวเรือนมากขึ้น ส่วน Ceramic Tableware ในประเทศจะเน้นการใช้สอยในชีวิตประจำวัน
เซรามิคประเภทเครื่องประดับทั้งที่ผลิตได้เองในญี่ปุ่นและที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ กำลังเป็นที่สนใจของผู้บริโภคถึงแม้จะมีราคาสูงแต่หากเทียบกับคุณภาพของสินค้าแล้วไม่ส่งผลกระทบต่อยอดการจำหน่ายเซรามิกส์ และที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้จะเป็นสินค้าที่มี Brand จากอเมริกาและยุโรป
พื้นผิว/สี
เซรามิกที่นำเข้าจากต่างประเทศและที่ผลิตได้เองในประเทศจะมีลักษณะพื้นผิวที่แตกต่างกัน สำหรับพื้นผิวที่ผลิตได้เองนั้นจะมีลักษณะผิวเรียบ วัสดุมีคุณภาพโดยเฉพาะ Bone China แต่สำหรับเซรามิกส์ที่นำเข้าจากต่างประเทศจะมีลักษณะพื้นขรุขระ เนื่องจากเป็นงานศิลป์กึ่งพาณิช วัสดุที่ใช้ค่อนข้างมีคุณภาพต่ำ
ส่วนสีที่นิยมวาดลวดลายบนเซรามิกส์ ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศนั้นจะมีลักษณะ Classic types, Floral, pat-terns, Bright hues, Blue-White แต่สำหรับสีเซรามิกส์ที่ผลิตได้ในญี่ปุ่นนั้นจะมีคุณภาพปานกลาง และนิยมลงสีทึบหนัก เช่น สีน้ำเงิน เขียว น้ำตาล ขาวทึบ และมีลวดลายประปราย เช่น ใบไม้ เปลือกไม้ ดอกไม้ ฯลฯ
ราคา
ตลาดญี่ปุ่นไม่ค่อยสนใจนักในเรื่องของราคาเลือกซื้อสินค้าประเภท Ceramic Tableware ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศได้มีการจัดอันดับความสำคัญสินค้าราคาต่ำอยู่ในระดับ 5 แต่จะให้ความสำคัญเกี่ยวกับสีและรูปแบบเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยการออกแบบ BrandName
ราคาการนำเข้าเซรามิค Westernstyle ระดับ Hign-Class ชนิดที่มี BrandName จากยุโรปจะมีราคาโดยเฉลี่ย 5,000-10,000 เยน/ชิ้น ส่วนชนิดที่ไม่มี Brand จากยุโรปราคาเฉลี่ย 500-2,000 เยน/ชิ้น สำหรับสินค้าเซรามิกส์ไทยซึ่งอยู่ระดับปานกลางจะมีราคาประมาณ 730 เยน/ชิ้น โดยนำเข้าจากอังกฤษ เยอรมนี อิตาลี เดนมาร์ก จีน ฝรั่งเศส ตามลำดับ ส่วนประเทศไทยญี่ปุ่นนำเข้าเซรามิกส์อยู่ในลำดับ 8
แนวโน้มตลาด
แม้ว่าการตกต่ำทางเศรษฐกิจทั่วภูมิภาคเอเชียจะส่งผลต่อการนำเข้าเซรามิกส์ของญี่ปุ่น กอปรกับการแข็งตัวของค่าเงินเยนในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา จะส่งผลต่อยอดการจำหน่าย Ceramic Tableware ชั้นนำของยุโรปที่ลดต่ำลงแต่อย่างไรก็ตามการส่งออกเซรามิกส์ไทย มีราคาไม่สูงนักน่าจะมีโอกาสขยายตลาดได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้การพัฒนาสินค้าของผู้ประกอบการ ไทยจะต้องให้ได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นด้วย ถึงแม้ว่าราคาต่อชิ้นจะสูงมากขึ้นกว่าเดิมบ้างเล็กน้อย
ปัจจัยหลักสำคัญในการขยายตลาดเซรามิกส์ในญี่ปุ่น
1.ผู้ส่งออกไทยควรจะมีการร่วมมือกับนักออกแบบญี่ปุ่น เพื่อให้เข้าถึงความต้องการที่แท้จริง เช่น ในกรณีของ Ceramic Tableware ไทยควรยกระดับคุณภาพและการออกแบบสินค้าให้ได้ใกล้เคียงกับสินค้าที่ผลิตได้ในญี่ปุ่น สำหรับวัสดุที่ดีอย่าง Bone China ผู้ประกอบการไทยจะต้องผลิตให้ได้ใกล้เคียงกับสินค้าจากยุโรป สำหรับเซรามิกส์เครื่องประดับเป็นอีกรายการหนึ่งที่น่าให้ความสนใจ เนื่องจากราคาเซรามิกส์ ชนิดนี้มีราคาต่อหน่วยสูง และมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้มีรายได้ ดังนั้นผู้ประกอบการควรยกระดับคุณภาพการผลิต และการออกแบบเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการนำเข้าตลาดให้มากกว่านี้
2.การเข้าเจาะตลาดญี่ปุ่นควรยึดกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่อการนำเข้าให้ได้ เช่น บริษัทการค้าระหว่างประเทศเฉพาะด้าน (Specialized Trading Company) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอำนาจการทำสัญญาเป็นผู้แทนจำหน่ายให้กับผู้ผลิตต่างประเทศ หรือบริษัทจัดจำหน่ายซึ่งลงทุนร่วมระหว่างบริษัทญี่ปุ่นกับบริษัทต่างประเทศ เช่น บริษัท Suita Boeki, Osawa Shokai, Waterford Wedgwood Japan เป็นต้น
3.การใช้กลยุทธ์การขายระยะยาว (Long termsale strategy) ตลอดจนกลยุทธ์การสร้างภาพพจน์ของสินค้าที่มีภาพลักษณ์ และคุณภาพสูง (high quality brand image) โดยจำกัดช่องทางการจำหน่ายให้อยู่ในเฉพาะศูนย์การค้า นอกจากนี้ยังควรได้มีการเพิ่มข้อมูลใหม่ในตราสินค้าให้กับผู้บริโภคในผลของความสำเร็จต่อยอดการจำหน่ายในรอบปีท่ผ่านมา
จากนแนวทางที่ได้กล่าวมาข้างต้น น่าจะช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ส่งออกเซรามิกส์ไทยได้มีการค้าขายกับผู้นำเข้าญี่ปุ่น หรือผู้ต้องการเริ่มต้นค้าขายเซรามิกส์ได้บ้าง ในเรื่องของการกำหนดแนวทางการผลิตเพื่อสนองความต้องการและรสนิยมของชาวญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นสิ่งกำหนดปริมาณการส่งออกเซรามิกส์ไทยไปญี่ปุ่น
ถึงแม้ว่าสินค้าเราจะไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับผู้ผลิตแถบยุโรปหรืออเมริกา แต่หากเรารู้ถึงความต้องการของตลาดอย่างแท้จริงการส่งออกสินค้าจากไทยก็จะทำได้เพิ่มมากขึ้น
>>> ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เนต
หน้าที่เข้าชม | 316,653 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 208,992 ครั้ง |
เปิดร้าน | 27 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ต.ค. 2568 |