ปัจจุบันชุดกาแฟที่มีผลิตจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดมักจะทำจากวัสดุหลายประเภท เช่น โลหะ พลาสติก แก้ว และเครื่องปั้นดินเผา แต่ชุดกาแฟที่ทำจากเครื่องปั้นดินเผาหรือเซรามิกนี้จะมีความเหมาะสมมากกว่าทั้งในด้านการเก็บความร้อน ความทนทานต่อการกัดกร่อน การทำความสะอาดได้ง่ายกว่า เป็นต้น
ชุดกาแฟเซรามิกหนึ่งชุดจะประกอบด้วย กากาแฟ แก้ว จานรอง โถใส่น้ำตาล โถใส่ครีม เหยือกนม และโถใส่ของขบเคี้ยว โดยจะมีแก้วกาแฟกับจานรองประมาณ 4-6 ที่ จะประกอบไปด้วย ตัวกา พวยกา หูจับ ฝาปิดที่ต้องต่อหัวจุกสำหรับจับปิด-เปิดกา แก้วกาแฟ ก็จะต้องต่อหูจับ โถใส่น้ำตาลก็จะต้องมีฝาปิดพร้อมหัวจุกที่จับ เหยือกนมก็จะต้องมีหูจับ และที่ตรงปากเหยือกก็จะต้องทำเป็นร่องยื่นออกมาสำหรับการรินนมได้อย่างสะดวกและตรงส่วนยื่นตรงส่วนปลายจะต้องมีติ่งยื่นลงล่างแล้วโค้งกลับขึ้นข้างบนเพื่อเป็นตัวตัดการไหลของน้ำนมในขณะที่ริน เช่นเดียวกับพวยกา
ในการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ประเภทชุดกาแฟนี้จะต้องแยกปั้นออกเป็นส่วนๆ ดังนี้
1. ตัวกา-ฝาปิดกา-พวยกา ส่วนหูจับใช้วิธีการขึ้นรูปแบบอิสระ โดยการใช้มือรูดรีดดินให้เป็นเส้น เมื่อทำการขูดแต่งแล้วจึงจะนำมาต่อเชื่อมกันให้เป็นตัวกากาแฟภายหลัง
2. ตัวแก้ว 4 ใบ ส่วนหูจับ ใช้วิธีการขึ้นรูปเหมือนกับการทำหูกา
3. จานรองแก้ว 4 ใบ
4. ตัวเหยือกนม ส่วนหูจับใช้วิธีการขึ้นรูปเหมือนกับการทำหูกา
5. ตัวโถใส่น้ำตาล ตัวโถใส่ครีม-ฝาปิด ปั้นต่อเชื่อมหัวจุกที่จับ
การขึ้นรูปตัวกากาแฟ
โดยจะมีขั้นตอนการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ ดังนี้
1. นำดินที่นวดดีแล้วทั้ง 4 ก้อน โดยการนำดินก้อนแรกมาปั้นเป็นตัวกา ส่วนที่เหลืออีก 3 ก้อนเก็บไว้ในถังพลาสติกปิดให้มิดชิดไว้ก่อน
2. นำดินที่จะปั้นเป็นตัวกาไปวางไว้บนแผ่นรองปั้นที่จัดเตรียมไว้บนแป้นหมุนแล้วทำการจับดินให้ได้ศูนย์กลางแล้วทำการเปิดเจาะฐานตัวกาให้ได้ศูนย์กลางเช่นกัน วัดความหนาของฐานตัวกา แล้วใช้มือขยายดินออกให้ได้ขนาดความกว้างของฐานตัวกาที่ต้องการ
3. ทำการดึงดินหรือรีดดินให้เป็นรูปทรงกระบอกจนสุดของเนื้อดิน ซึ่งตัวกากาแฟจะมีรูปแบบเป็นรูปทรงกระบอกที่มีส่วนด้านล่างโค้งออก ส่วนลำตัวกาจะตั้งตรง ส่วนช่วงคอกาจะเว้าเล็กน้อย ส่วนขอบปากจะผายออกเล็กน้อยเพื่อเป็นตัวล็อคฝา
ดังนั้นหลังจากการรีดดินเป็นรูปทรงกระบอกได้แล้ว ก็ทำการเข้ารูปทรงให้ได้ตามแบบ โดยใช้ปลายนิ้วมือด้านซ้ายดันดินส่วนล่างสุดให้เนื้อดินมีการขยายออกโดยมีปลายนิ้วมือด้านขวากดดินเข้าไปตรงบริเวณที่ปลายนิ้วมือด้านซ้ายที่ดันดินออกมาโดยปลายนิ้วด้านขวาอยู่ข้างบนเล็กน้อย การใช้น้ำหนักกดมือขวานั้นจะต้องค่อยๆ กดแล้วค่อยๆ เลื่อนมือทั้ง 2 ข้างขึ้นพร้อมๆ กันในลักษณะที่ดันดินและกดดินให้โค้งออกมาให้ได้ตามแบบ เมื่อความโค้งของส่วนล่างของตัวกาได้ที่แล้ว ก็ใช้มือซ้ายด้านในคอยประคองดินมือขวา กดเนื้อดินเล็กน้อยแล้วค่อยๆ เลื่อนมือทั้ง 2 ข้างขึ้นสู่ด้านบนในลักษณะที่เป็นเส้นตรงขึ้นมา เมื่อถึงบริเวณที่จะทำเป็นส่วนคอของกาก็ใช้มือขวากดดินให้เว้นเข้าหรือแอ่นเข้า โดยมือซ้ายที่คอยประคองดินอยู่จะต้องเลื่อนตาม แรงกดของมือขวาเข้าไปด้วยค่อยๆ เลื่อนมือทั้ง 2 ข้างขึ้นพร้อมๆกัน จนสุดขอบปากตัวกา
4. ส่วนขอบปากตัวกาก็ขึ้นรูปเช่นเดียวกันกับขอบปากตัวภาชนะมีฝา
5. การปั้นฝากาก็มีวิธีการขึ้นรูปเช่นเดียวกันกับการปั้นภาชนะมีฝา
6. เมื่อปั้นฝากาเสร็จแล้ว ก็ทำการปั้นพวยกา โดยการนำก้อนดินจากส่วนที่เก็บไว้มาใช้เป็นก้อนที่ 3
7. นำก้อนดินที่จะปั้นเป็นพวยกานี้ไปจัดวางไว้บนแผ่นรองปั้นที่เตรียมไว้บนแป้นหมุน แล้วก็ทำการจับดินให้ได้ศูนย์กลางแล้วทำการเจาะเปิดฐานพวยกานี้ให้ผ่านทะลุลงไปถึงแผ่นรองปั้นแล้วทำการรีดดินหรือดึงดินให้สูงขึ้นในลักษณะส่วนบนจะเล็กและแคบ ส่วนด้านล่างที่จะทำเป็นฐานพวยกานี้จะต้องมีความกว้างมากกว่าส่วนที่จะเป็นปลายพวยกาด้านบนโดยประมาณ 3-4 เท่า
วิธีการรีดดินหรือดึงดินช่วงตรงฐานพวยกาขึ้นสู่ปลายพวยกาเพื่อที่จะให้เล็กหรือแคบลงตามลำดับกระทำได้โดยการใช้ปลายนิ้วกลางและหัวแม่มือจากมือทั้ง 2 ข้าง ช่วยประคองและบีบกดจากข้างล่างที่เป็นฐานพวยกาไล่ขึ้นสู่ข้างบนที่เป็นส่วนปากพวยกา โดยการใช้น้ำหนักมือที่กดค่อยๆ ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ในลักษณะฐานใหญ่ปลายเล็กตามลักษณะรูปแบบของพวยกา เมื่อปั้นพวยการเสร็จแล้วจะต้องทำการหมุนแป้นไว้ก่อนแล้วใช้ปลายนิ้วบีบตรงบริเวณปลายพวยกาด้านหนึ่งให้แคบเข้า มีลักษณะเป็นร่องแล้วก็ใช้มือกดส่วนปลายร่องให้เป็นติ่งยื่นลงเล็กน้อยเพื่อมีไว้สำหรับเมื่อทำการรินน้ำกาแฟออกมาแล้วติ่งที่ทำไว้จะเป็นส่วนที่ทำการตัดน้ำไม่ให้ไหลเลอะลงตัวกาได้
8. เมื่อทำการปั้นพวยกาเสร็จแล้วก็นำดินส่วนก้อนที่เหลือนำมาคลึงให้เป็นก้อนยาว โดยมีปลายด้านหนึ่งใหญ่ขนาดที่ฝ่ามือซ้ายถือจับได้ง่ายถือปลายดินชูตั้งไว้ด้านบนส่วนปลายดินที่เหลือจะเรียวเล็กลงห้อยลงมาแล้วใช้มือขวาจุ่มน้ำให้เปียกจับดินส่วนล่างที่เหลือ แล้วทำการรูดรีดดินให้ค่อยๆ ยาวลงมามีลักษณะเป็นเส้นกลม หรือแบนแล้วแต่การบังคับนิ้วหัวแม่มือด้านขวารูดรีดลงมาเป็นเส้นยาวตามขนาดที่ต้องการแล้วนำเส้นดินนี้ไปโค้งให้ได้ตามรูปแบบของหูจับกาที่ได้ออกแบบไว้บนแผ่นไม้อัดหรือบนแผ่นปูนปลาสเตอร์แล้วใช้ปลายนิ้วมือซ้ายบีบกดส่วนดินที่เหลือให้ขาดออกจากส่วนที่โค้งไว้เป็นหูกาวิธีรูดรีดหูกาหรือภาชนะต่างๆ ที่ใช้วิธีการรูดรีดดินแบบนี้จะต้องใช้น้ำหล่อลื่นมากพอสมควร ถ้าเกิดการรูดรีดดินแล้วใช้น้ำหล่อลื่นน้อยจะทำให้เส้นดินขาดตอนได้
9. เมื่อทำการปั้นตัวกา ฝากา พวยกา และรูดรีดดินส่วนที่เป็นหูกาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นำไปผึ่งให้ดินหมาดเพื่อที่จะทำการขูดแต่งพื้นผิวและฐานผลิตภัณฑ์ให้เรียบร้อยตามรูปแบบ หลังจากนั้นก็นำพวยการไปทำการตัดฐานให้ได้ตามรูปแบบเพื่อที่จะนำไปต่อเชื่อมกับตัวกาโดยที่จะต้องมีการเจาะรูตัวกาหลายๆ รู เพื่อให้น้ำสามารถไหลออกได้สะดวกเจาะตรงบริเวณส่วนที่จะทำการต่อเชื่อมตัวกากับฐานของพวยกา
โดย...รองศาสตราจารย์ สมศักดิ์ ชวาลาวัณย์
>> ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เนต
หน้าที่เข้าชม | 315,847 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 208,186 ครั้ง |
เปิดร้าน | 27 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |