กรรมวิธีการขึ้นรูปแบบเก่าแก่ที่สุด คือ การปั้นมือแบบอิสระ และการใช้แป้นหมุนซึ่งอาศัยความเหนียวของเนื้อดินมาช่วยมาก นอกจากนี้ความเหนียวของเนื้อดินยังมีผลต่อการขึ้นรูปโดยเครื่องที่เรียกว่า จิ๊กเกอร์ และ โจลี ตลอดจนเครื่องโรลเลอร์ อีกด้วย รวมไปถึงการใช้เครื่องรีดดินและการนำดินแผ่นมากดลงบนพิมพ์ปูนปลาสเตอร์ จะด้วยมือ หรือ เครื่องจักรก็ตามปัจจัยเรื่องความเหนียวเป็นสิ่งที่สำคัญ ส่วนการหล่อน้ำดินจะอาศัยเงื่อนไขการไหลภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลก และเริ่มต้นใช้วิธีการหล่อน้ำดินในราวก่อนศตวรรณที่ 18 ส่วนการนำพิมพ์ปูนปลาสเตอร์เข้ามาใช้ในการหล่อน้ำดินนั้นมาทีหลัง โดยเริ่มที่อังกฤษประมาณปี 1745 และในการขึ้นรูปแบบแห้งเราใช้เครื่องอัดแห้ง
ขบวนการขึ้นรูปต่างๆ นี้มีวิวัฒนาการต่อเนื่อง จากการปั้นมือ เรื่อยมาจนถึงเครื่องอัดแห้งภายใต้แรงดันสูง ซึ่งจะได้อธิบายต่อไป
การขึ้นรูปเนื้อดินที่มีความนุ่ม
คุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของดิน คือ ความเหนียวดังที่กล่าวไปแล้ว การขึ้นรูปในยุคแรกเริ่มนั้นอาศัยความเหนียวนี้มาขึ้นรูปโดยการปั้นเป็นก้อน และบิด ดัด โค้งงอ เป็นรูปร่างต่างๆ ที่ต้องการตลอดจนการทำเป็นขดและขึ้นรูปเป็นแจกันขนาดใหญ่เรื่อยมาจนเป็นแป้นหมุน ซึ่งปัจจุบันนี้ยังมีการใช้วิธีการขึ้นรูปแบบดั้งเดิมนี้อยู่ในงานศิลปะ และงานพิเศษๆ บางอย่าง แม้ว่าในวงการอุตสาหกรรมแล้วจะลดบทบาทลงมากก็ตามแต่ยังคงเป็นหลักการพื้นฐานให้กับการพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ อยู่ดี เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่า ถ้าปริมาณน้ำในเนื้อดินมีมาก จะทำให้การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์เซรามิกเป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่จะทำให้เกิดการหดตัวของงานเมื่อเรานำไปทำให้แห้งได้มากเช่นกัน อันนำมาสู่การร้าวของผลิตภัณฑ์ได้ ความพยายามที่จะพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ ที่สามารถลดปริมาณน้ำในเนื้อดินลง และยังคงสามารถที่จะทำการขึ้นรูปได้ดี เป็นจุดสำคัญในการผลักดันให้งานเซรามิกก้าวหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง
1. การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ประเภทอิฐโดยใช้ดินที่นุ่มมากๆ
ในการทำอุตสาหกรรมอิฐยุคแรกใช้คนงานทำการปั้นดินเป็นก้อนตามความต้องการ
และกดลงในพิมพ์ รูปร่างของอิฐในช่วงแรกจะนุ่มมากจนไม่สามารถจับต้อง หรือเคลื่อนย้ายจนกว่าจะแห้ง ข้อดีคือ การให้ลักษณะริ้วรอย ลวดลายที่ดูสวยงามบนผิวของอิฐแต่ละก้อนอันเนื่องมาจากพิมพ์ และการกดของคน ความยุ่งยากคือ ต้องเสียเวลาในการรอให้อิฐแห้งก่อนจึงจะทำการเคลื่อนย้ายหรือเผาได้ จึงพยายามที่จะพัฒนาให้ดินที่จะนำมาทำเป็นอิฐนี้มีปริมาณน้ำลดลง
2. การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ประเภทอิฐแบบกึ่งแข็ง
เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับเวลาที่ยาวนานในการรอให้ดินแห้ง ได้มีการคิดอุปกรณ์ในการขึ้น
รูปอิฐโดยที่เนื้อดินมีน้ำในปริมาณที่น้อยลงจากเดิมมาก เครื่องกดแรงดันสูงถูกนำมาใช้ และเปลี่ยนจากแรงงานคนมาเป็นเครื่องจักรกลมากขึ้น ได้นำเครื่องกดอัดมาใช้ครั้งแรกในอังกฤษราวๆ ปี 1958 สามารถผลิตอิฐได้ 2,550 ก้อนต่อชั่วโมง ทำให้อัตราการผลิตรวดเร็วขึ้นจากเดิมมาก
3. การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ด้วยการปั้นมืออิสระ
ส่วนมากเราจะพบการขึ้นรูปแบบนี้ในงานศิลปะเพื่อสร้างงานที่มีรูปร่างพิเศษ แต่ใน
วงการอุตสาหกรรมแล้ว การปั้นมือถูกนำมาใช้ในการทำต้นแบบสำหรับงานที่ต้องการรูปร่างพิเศษ นอกจากนั้นยังใช้ในการผลิตงานขนาดใหญ่ๆ ประเภท สโตนแวร์ อีกด้วย
4. การขึ้นรูปด้วยแป้นหมุน
เป็นการขึ้นรูปที่ต้องอาศัยทักษะ ความชำนาญอย่างมาก ในปัจจุบันนี้จะเน้นไปทางงาน
ศิลปะ แต่อาจจะนำมาใช้ในการทำพวกอุตสาหกรรมฉนวนไฟฟ้า ที่มีรูปร่างทรงกระบอกขนาดใหญ่ได้โดยหลักการง่ายๆ คือ ปั้นดินเป็นก้อนตามต้องการและกดลงบนจุดศูนย์กลางของแป้นหมุนที่เรียกว่า การตั้งศูนย์ แล้วจึงใช้แรงจากนิ้วมือ และฝ่ามือทำการดึง หรือ รีดเนื้อดินขึ้นมาเป็นรูปทรง และด้วยอุปกรณ์การวัดที่เหมาะสม ช่างปั้นสามารถที่จะสร้างงานที่มีขนาดตามแบบได้
5. การขึ้นรูปด้วยจิ๊กเกอร์ และ โจลี
เป็นงานขึ้นรูปที่ต้องการรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่แน่นอนเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดย
อาศัยหลักการของแป้นหมุนมาประยุกต์ โดยมีเครื่องมือที่คล้ายแป้นหมุน ประกอบกับพิมพ์ปูนปลาสเตอร์ และใบมีดสำหรับขึ้นรูปตามลักษณะของงาน การใช้คำว่า จิ๊กเกอร์ หรือ โจลี ขึ้นกับลักษณะของการทำงานว่าทำงานบนผิวโค้งนูน หรือโค้งเว้า ดังนั้นจากคำนิยามนี้เอง จิ๊กเกอร์ คือ การขึ้นรูปบนผิวโค้งนูนของพิมพ์ปูนปลาสเตอร์ ในขณะที่โจลี เป็นการทำงานบนผิวที่โค้งเว้าของพิมพ์ปูนปลาสเตอร์
6. เครื่องจิ๊กเกอร์แบบกึ่งอัตโนมัติ และอัตโนมัติ
ในการขึ้นรูปโดยวิธีจิ๊กเกอร์สำหรับงานขนาดเล็ก อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บนโต๊ะอาหาร
ทั้งหลาย สามารถที่จะนำวิธีจิ๊กเกอร์แบบกึ่งอัตโนมัติ หรือแบบอัตโนมัติมาใช้ได้ ถ้าเนื้อดินมีความเหนียวที่พอเหมาะ และโดยวิธีการนี้เองที่จะทำให้ลักษณะของการขึ้นรูปไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป และจะเพิ่มผลผลิตอย่างมาก
ระบบนี้ได้รับการพัฒนาครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในครั้งนั้นเป็นระบบ
กึ่งอัตโนมัติ สำหรับระบบอัตโนมัตินั้นต้องการเนื้อดินที่มีความแข็งแรงพอเหมาะ จะใช้งานได้อย่างดีกับงานประเภทเอิร์ทเทนแวร์ และจะลดประสิทธิภาพลงเล็กน้อยเมื่อนำมาใช้ในงานประเภทปอร์ซเลน และไม่ค่อยดีนักกับงานประเภทโบนไซนา
7. เครื่องโรลเลอร์
เครื่องจักรนี้นำมาใช้เป็นครั้งแรกที่อังกฤษ มีข้อเด่นคือ ความรวดเร็ว และต้องการ
ปริมาณน้ำในเนื้อดินน้อยกว่าเครื่องจิ๊กเกอร์มาก โดยการนำดินจากเครื่องรีดดินที่ปรับความแข็งของเนื้อดินอย่างเหมาะสม ทำการตัดเป็นแผ่นวงกลมวางบนพิมพ์ปูนปลาสเตอร์ จากนั้นใบมีดของจิ๊กเกอร์ถูกเปลี่ยนมาเป็นจานหมุน ทำให้เกิดความเค้นขึ้นในเนื้อดินน้อยกว่าเดิม นอกจากนั้นเราสามารถใช้ดินแผ่นที่เกิดจากการตัดแท่งดินโดยตรงในขณะที่การขึ้นรูปแบบจิ๊กเกอร์ต้องทำให้ดินมีลักษณะเป็นแผ่นก่อน ทำให้ลดเวลาลงไปได้อีก เหมาะงาน เช่น แก้วเซรามิค อย่างไรก็ตามจุดอ่อนคือ ไม่สามารถใช้กับผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ได้
8. เครื่องรีดดิน
กระบวนการรีดดินเพื่อใช้ในการขึ้นรูปต่างๆ นั้น ปกติแล้วเราจะดึงเนื้อดินจากเครื่องรีด
ดินในรูปของแท่งทรงกระบอกที่มีความสม่ำเสมอของรูปทรง จากนั้นแท่งดินจะถูกตัดเป็นส่วนๆ ตามต้องการ ซึ่งโดยวิธีนี้เราสามารถควบคุมปริมาณ และน้ำหนักของเนื้อดินได้แน่นอน จึงเหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำมากๆ เช่น เครื่องโรลเลอร์ เป็นต้น
เนื่องจากการใช้เครื่องรีดดินจะสามารถควบคุมปริมาณน้ำในดินได้ จึงเหมาะแก่การ
นำไปทำอิฐ กระเบื้อง ท่อระบายน้ำ ฉนวนไฟฟ้า เป็นต้น โดยหลักการดินที่ออกจากเครื่องรีดดินสามารถทำเป็นรูปร่างต่างๆ กัน เช่น รูปทรงกระบอก รูปแท่งสี่เหลี่ยม โดยใช้หัวรีดเป็นตัวกำหนด จากนั้นจะใช้วิธีตัดแท่งดินที่ได้เป็นชิ้นๆ ตามต้องการ
โดย...ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเซรามิค
>> ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เนต
หน้าที่เข้าชม | 315,847 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 208,186 ครั้ง |
เปิดร้าน | 27 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |