เริ่มจากการค้นพบแหล่งดินเกาลิน ที่เมือง Arita อำเภอ Saga ในเกาะ Kyushu ภาคใต้ของญี่ปุ่น เมือง Arita จึงกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตเซรามิค Porcelain ในสมัยเอโดะ หรือ ระหว่าง ค.ศ. ที่ 17-19 คล้ายๆ เมืองลำปางบ้านเรา
ในระยะแรกสินค้าที่ผลิตมีเพียงของขาวที่ไม่ได้ตกแต่งลวดลาย ต่อจากนั้นได้รับการถ่ายทอดเทคนิคการวาดลายสีน้ำเงินใต้เคลือบ ( cobalt blue underglaze decoration ) จากชาวเกาหลีอพยพ Yi Sam-p’yong ที่มาถึงญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1598 และได้สร้างเตาเผาเซรามิคเตาแรกขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1616 รูปแบบสินค้าที่ผลิตเป็นแบบของเกาหลีในช่วงราชวงศ์ Yi (ค.ศ.1392-1910) หลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนารูปแบบสินค้าอย่างต่อเนื่องโดยได้รับการถ่ายทอดเทคนิคการวาดสีบนเคลือบ (overglaze decoration) จากชาวจีน ซึ่งได้เริ่มมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมขึ้นในระยะนั้น รูปแบบของสินค้าจึงผสมผสานคล้ายกับสินค้าของจีนในยุคราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368-1644) เมื่อมีการส่งสินค้าไปยุโรป ก็ได้มีการประยุกต์ผสมผสานลวดลายในศิลปะ Baroque จากยุโรปเข้าไปด้วย ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรป ด้วยการบริหารราชการที่เข้มแข็งของผู้ปกครองแผ่นดินในสมัยนั้นภายในไม่กี่สิบปี Arita ได้กลายเป็นศูนย์กลางการส่งออกสินค้าเซรามิคของญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว
Porcelain ที่ผลิตในเมือง Arita เป็นที่รู้จักกันในนามของ “Imari ware” ซึ่งตั้งชื่อตามเมืองท่าเรือที่ส่งออก ซึ่งห่างออกไปเพียง 15 กม. หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ “Ko-Imari” ซึ่งแปลว่าอิมาริโบราณนั้นเอง
ลักษณะการวาดของ Imari ware คือ การวาดเต็มพื้นที่ โดยอาจมีสีน้ำเงินหรือสีแดงเข้มรองพื้นในบางส่วนตกแต่งด้วยสีบนเคลือบ 5 สีคือ แดง น้ำเงิน เขียว เหลือง ม่วง การออกแบบลายวาดที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษของ Ko-Imari ประกอบด้วย 5 ส่วนคือ
1.ลายตรงกลางจานด้านบน
2.ลายรอบๆ ของลายส่วนกลางด้านบน
3.ลายชิดริมขอบจาน
4.ด้านหลังจาน
5.ขอบขาจานด้านใต้ของจาน
โดยเน้นที่การวาดให้เต็มพื้นที่โดยลายที่จะใช้ออกแบบส่วนใหญ่ประกอบด้วย ภาพวิว ดอกไม้ ผลไม้ ต้นไม้ นก ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ความสุข เป็นต้น
-ดอกไม้ที่นิยมวาด คือ ดอกพีโอนี สื่อถึงความอมตะ
-ดอกพลัม สื่อถึงการมีอายุยืนหรือเมื่อประกอบเข้ากับดอกโบตั๋น ดอกเบญจมาศ ดอกบัว จะหมายถึงฤดูกาลทั้ง 4 โดยดอกพลัมจะหมายถึงฤดูหนาว
-ดอกโบตั๋น เปรียบเสมือนราชาแห่งดอกไม้ เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ และความรักใคร่ ผูกพัน
-ดอกเบญจมาศ หมายถึงฤดูใบไม้ร่วง และสื่อถึงความสุขและความร่าเริง
-ดอกบัว เป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อน หรือความบริสุทธิ์และความสำเร็จ
-ต้นสน สื่อถึงความยั่งยืนหรืออายุยืน
-ต้นไผ่ สื่อถึงความเขียวชอุ่มและอดทน
-ต้นทับทิม สื่อถึงการมีลูกหลานมากมาย เป็นต้น
ในระยะหลังได้มีการตกแต่งลวดลายทองและเงินเพิ่มเติมในชิ้นงานเพื่อทำให้มีความหรูหรามากขึ้น มีทั้งวิธีเขียนด้วยน้ำทอง วิธีโรยด้วยผงทอง และวิธีติดด้วยแผ่นทองที่บางเฉียบ โดยทองที่ใช้ในวิธีที่แตกต่างนั้น ให้ผลที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ปัจจุบันชิ้นงาน Ko-Imari ถือว่าเป็นของสะสมที่มีมูลค่าสูง เป็นสมบัติส่วนตัวหรือเก็บอยู่ตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งที่อยู่ในพระราชวัง Schonbrunn ในเวียนนา มักนิยมวาดเป็นจานโชว์ แจกัน โถเครื่องหอม โคมไฟ และอื่นๆ ที่ใช้เป็นของโชว์มากกว่าเอามาใช้งานจริงหรือเพื่อให้เป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ เราอาจมองเห็นศิลปวัฒนธรรมการหลอมรวมของหลายๆ ชาติผ่านชิ้นงาน Imari ที่นำมาประยุกต์ให้เป็นรูปแบบพิเศษเฉพาะตัวของญี่ปุ่น
>>> ขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เนต
หน้าที่เข้าชม | 316,646 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 208,985 ครั้ง |
เปิดร้าน | 27 ส.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ต.ค. 2568 |